tag:blogger.com,1999:blog-58314588307218250352024-03-05T05:06:42.471-08:00ธรรมะและปรัชญาyawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.comBlogger33125tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-12075415408763018522008-12-24T08:05:00.000-08:002008-12-24T14:40:15.669-08:00สุขสันต์วันคริสต์มาส<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEDWsnWkT-8O1lV2RJAt5JTzN0VOQlFW7vMj5DvlCiqDhjUL6s1v8G27Tey_Evt1QxiQH4-IhXOJf0qmuGRsswCQ_84FyhbBCpLCv4qRiQUsZ1a1vON8LXAGc6SiCT3YhS2K7hTVqLecAf/s1600-h/9thanks-to-god.gif"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 202px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEDWsnWkT-8O1lV2RJAt5JTzN0VOQlFW7vMj5DvlCiqDhjUL6s1v8G27Tey_Evt1QxiQH4-IhXOJf0qmuGRsswCQ_84FyhbBCpLCv4qRiQUsZ1a1vON8LXAGc6SiCT3YhS2K7hTVqLecAf/s320/9thanks-to-god.gif" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5283388650288837522" /></a><br /><strong>......................ขอขอบพระคุณ Zwani.com เป็นอย่างยิ่ง..................<br />.........................ที่มีภาพสวย ๆ ให้เราทุกเทศกาล.......................</strong>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-3436850630302339382008-12-22T13:45:00.000-08:002008-12-22T13:50:28.757-08:00ธรรมใดจะไร้ค่าถ้าไม่ทำเมื่อกี๊ตอนตีสี่ห้าสิบนาทีได้ยินจากทีวีช่อง 9<br /><br />รายการไกด์ธรรมนำทาง<br /><br /><strong>"ธรรมใดจะไร้ค่าถ้าไม่ทำ"</strong><br /><br />นี่แหละ...ใช่เลย<br /><br />(หมายเหตุ อย่างงกับเวลาข้างล่าง<br />เพราะไม่รู้จะตั้งอย่างไรให้ตรงกับเวลาจริง<br />ใครรู้ก็บอกกันบ้างนะ)yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-86922745160019636612008-11-16T08:02:00.000-08:002008-12-05T14:38:32.252-08:00ขอสมเด็จพระพี่นางทรงเสด็จสู่สวรรคาลัย<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiL8e4Wvpp8WZt-hTXppRj5EOZhxy5MksYlvyw1JYhW7UugdkDxeAIAIAPGCHRkJr56u1epGkkCOEpo7WVIBAQsCHmbpXfCq7flXuF72-Dwh_3GRsuxKBuZZbsonOKeJ1dZPWDNqTQOMicF/s1600-h/Galaya.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5269287473786933554" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 206px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiL8e4Wvpp8WZt-hTXppRj5EOZhxy5MksYlvyw1JYhW7UugdkDxeAIAIAPGCHRkJr56u1epGkkCOEpo7WVIBAQsCHmbpXfCq7flXuF72-Dwh_3GRsuxKBuZZbsonOKeJ1dZPWDNqTQOMicF/s320/Galaya.jpg" border="0" /></a><br /><br />และฟังเพลง "ส่งนางฟ้ากลับสวรรค์"<br />ที่เว็บ <a href="http://feelfree.exteen.com/20080916/bird">http://feelfree.exteen.com/20080916/bird</a><br /><br />ถึงเวลาส่งนางฟ้ากลับสวรรค์<br />ที่แห่งนั้นงามดังฝันคู่ควรเทพธิดา<br />สู่สวรรค์ สู่ยังวิมานที่ปลายขอบฟ้า<br />ก้มกราบอำลา ด้วยน้ำตาอาลัย<br /><br />ท่านลงมาจากบนฟ้าจากสวรรค์<br />เติมความฝัน ต่อชีวิตผู้คนทั้งใกล้ไกล<br />สุดเหนื่อยล้า อุทิศชีวา เพื่อคนที่ยากไร้<br />เป็นภาพในใจ ไม่ลืมทุกอย่างที่ท่านทำ<br /><br />จากวันนี้ กลับสู่ฟ้าดังเดิม<br />และคงไม่มีภาพเดิม ที่เคยได้เห็นได้จำ<br />ไม่มีอีกแล้ว นางฟ้าองค์เดิม ท่องดินและถิ่นน้ำ<br />แต่ภาพทรงจำ ไม่มีวันเลือนลบหายไป<br /><br />ถึงเวลาส่งนางฟ้ากลับสวรรค์<br />ที่แห่งนั้น งามดังฝันและดูสุดแสนไกล<br />ยามคิดถึง ให้คิดทำดี ร่วมมีร่วมจุดหมาย<br />นางฟ้าไกลไกล ท่านคงยังอยู่ข้างข้างเรา<br /><br />นางฟ้าองค์เดิม ท่านคงยังอยู่ข้างข้างเรา</div><div align="center"></div><div align="center"></div><div align="center"><span style="font-size:85%;"><strong>ขอขอบพระคุณเจ้าของเว็บข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง</strong></span></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-15629096669129555502008-11-12T08:27:00.000-08:002008-11-12T09:34:11.144-08:00สุขสันต์วันลอยกระทง<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEipR-R-yPlq_ddf1QR8AeUSGR1pJcZMBDrXORtKZBKfChV_qe38zACYbiVocDMbYnz6N2JoPRgXAHQIEvFQQ1N2lY4C1cMuN_PJTDDyJc20REoBsXznPUJf0yrDMusHdsC6kuTvPbo58BAQ/s1600-h/d45f866d9b4ee9874efb577c52d4971c_1226497630.gif"><img style="display:block; margin:0px auto 10px; text-align:center;cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 281px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEipR-R-yPlq_ddf1QR8AeUSGR1pJcZMBDrXORtKZBKfChV_qe38zACYbiVocDMbYnz6N2JoPRgXAHQIEvFQQ1N2lY4C1cMuN_PJTDDyJc20REoBsXznPUJf0yrDMusHdsC6kuTvPbo58BAQ/s320/d45f866d9b4ee9874efb577c52d4971c_1226497630.gif" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5267808797691409714" /></a><br /><strong>....................มีงานลอยกระทงตามวัดต่างๆหลายจุด..................</strong>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-28530209449069867262008-10-23T09:53:00.001-07:002008-12-15T08:16:29.723-08:00วันปิยมหาราช<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzsdH8gR2CRFMK442jbxPZxdl1-hWSf9Sy5LPTr3NiBXKgsdPqOPUSyaKkAvuYq-6ylxyTcY1mXxjgOaLagaYBiJzGbsfcfqYbkxZkQ8hhKdgzlgbvoBeqm7O9OHBzo-n9GFd3Yuc1G5nA/s1600-h/KingRama5[1].jpg"></a><br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5260629423337352178" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 286px; CURSOR: hand; HEIGHT: 320px; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhzsdH8gR2CRFMK442jbxPZxdl1-hWSf9Sy5LPTr3NiBXKgsdPqOPUSyaKkAvuYq-6ylxyTcY1mXxjgOaLagaYBiJzGbsfcfqYbkxZkQ8hhKdgzlgbvoBeqm7O9OHBzo-n9GFd3Yuc1G5nA/s320/KingRama5%5B1%5D.jpg" border="0" />yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-19719667953429498452008-10-22T09:09:00.000-07:002008-10-29T08:53:57.514-07:00สุขสันต์วันเกิด...to me<a href="http://www.glitterdd.com/glitter_view.php?catid=14&id=57" target="_blank"><img src="http://www.glitterdd.com/upload/glitter/bd1.gif" alt="สุขสันต์วันเกิด" border="0"></a>
<br /><br>
<br /><a href="http://www.glitterdd.com">yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-48184063530978729522008-10-10T17:10:00.000-07:002008-10-10T17:23:46.685-07:00ลังเลวันนี้เป็นวันเสาร์ วันที่ควรได้พักผ่อนแต่บางท่านอาจจะอยู่ในภาวะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ก็เลยอยากฝากบทความสั้น ๆ ต่อไปนี้เพื่อประกอบการตัดสินใจ<br /><br /><strong><span style="color:#cc9933;">...ลังเล...</span></strong><br /><strong><span style="color:#cc9933;">จากหนังสือ "เต๋ากับการบริหาร"</span></strong><br /><strong><span style="color:#cc9933;">Bob Massing เขียน</span></strong><br /><strong><span style="color:#cc9933;">เจษฎา อ่ำแก้ว เรียบเรียง</span></strong><br /><strong></strong><br /><span style="color:#999900;">...ผู้บริหารอย่าลังเล ท่ามกลางภาวะวิกฤตที่การบริหารจะก้าวหน้านั้นมันยากยิ่ง ในการบริหารที่จะต้องเกิดภาวะวิกฤตขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านไหน<br />...ผู้บริหารจะต้องควบคุมภาวะวิกฤตด้วยความสุขุมและทำอย่างเงียบ ๆ การแก้ไขอย่างเงียบ ๆ และควบคุมอย่างจริงจังเป็นหลักของ "เต๋า"<br />...ผู้บริหารโปรดระมัดระวัง การลังเลจะกลายเป็นการอ่อนแอ ควรมองหาวิธีการที่สามารถทำให้องค์กรรอดพ้นภาวะวิกฤต ด้วยความรอบรู้และการใช้ปัญญา<br /><br /></span><span style="font-size:85%;color:#000000;">ขอขอบพระคุณผู้เขียนและผู้เรียบเรียง สำหรับความรู้ที่เป็นประโยชน์</span><br /><span style="font-size:85%;color:#000000;"></span><br /><br /><strong></strong><br /><strong></strong>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com5tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-89539477275237763612008-09-07T08:19:00.000-07:002008-09-13T18:00:53.201-07:00ธรรมะกับการเมือง<strong>เพื่อให้ทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์<br />จีงขออนุญาตคัดเรื่อง "ธรรมะกับการเมือง"<br />ซึ่งอยู่ในหน้า 209 - 221<br />จากหนังสือ "คมธรรมท่านพุทธทาส"<br />คัดเลือกรวบรวมโดย " คุณไพโรจน์ อยู่มณเฑียร"<br />ฉบับพิมพ์ครั้งแรก พฤษภาคม 2537</strong><br /><br /><span style="color:#999900;">ธรรมะ กับ การเมือง<br />เป็นสิ่งที่แยกกันไม่ได้<br />แยกกันเมื่อไร<br />การเมืองก็กลายเป็นเรื่องทำลายโลกขึ้นมาทันที<br /><br />เมื่อกล่าวโดยปรัชญาทางศีลธรรม<br />การเมืองก็คือหน้าที่ของมนุษย์<br />ที่เขาจะต้องประพฤติกระทำให้ถูกต้อง<br />ตามกฎของธรรมชาติอันเฉียบขาด<br />เพื่อผลคือการอยู่กันเป็นผาสุก<br />โดยไม่ต้องใช้อาชญา<br />แต่เมื่อไม่มีการคำนึงถึงศีลธรรมกันเสียแล้ว<br />การเมืองก็กลายเป็นเรื่องสกปรก<br />สำหรับหลอกลวงกัน อย่างไม่มีขอบเขต<br />จนกระทั่งโลกนี้กลายเป็นโลกแห่งการหลอกลวงไปเสีย<br />มีแต่สัตว์การเมือง ที่เป็นสัตว์เอาเสียจริง ๆ<br />กล่าวคือ บูชาเรื่อง กิน-กาม-เกียรติ แทนสันติสุข<br /><br />การเมืองที่แท้จริงสำหรับมนุษย์<br />ต้องตั้งรากฐานอยู่บนรากฐานทางศาสนา<br />ของทุกศาสนาที่มีอยู่ว่า<br /><strong>"สัตว์ทั้งหลาย เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย</strong><br /><strong>ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น"</strong><br />นักการเมืองที่มีธรรมสัจจะข้อนี้อยู่ในใจ<br />ย่อมเป็นนักการเมืองของพระเจ้า<br />การเคลื่อนไหวของเขาทุกกระเบียดนิ้ว<br />มีแต่กุศล<br />จนกระทั่งกลายเป็นปูชนียบุคคลไป<br /><br />เกิดมาแล้วต้องไม่เสียชาติเกิด<br />คือเกิดมาในโลกนี้แล้ว<br />ต้องมีส่วนที่จะทำให้โลกนี้มีสันติสุข สันติภาพ<br /><br />พุทธบริษัทเรา ถ้าตกไปในความงมงายเท่าไร<br />ก็สูญเสียอิสรภาพทางสติปัญญาเท่านั้น<br />ความงมงายนี้มีหลายสิบ หลายร้อย รูปแบบหรือชนิด<br />ไปดูเอาเองอย่าต้องออกชื่อ มันกระทบกระเทือน<br /><br />เราเป็นคนคนหนึ่งในโลก<br />ก็ต้องรับรู้ปัญหาต่าง ๆ ของโลก<br />เพราะว่าถ้าปัญหามันเกิดขึ้นในโลก<br />แล้วมันก็ต้องถึงเราด้วย<br /><br />การเมืองที่ปราศจากธรรม<br />ตั้งต้นจากการขยายตัวของกิเลส<br /><br />อย่าลืมธรรมชาติ<br />พยายามที่จะใกล้ชิดธรรมชาติไว้ในโลกให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้<br /><br /><br /></span><span style="color:#999900;"></span><span style="color:#ffcc00;"></span>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-19079170562629651112008-08-11T08:11:00.000-07:002008-08-12T09:15:41.903-07:00วันแม่แห่งชาติ<div align="center"><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><em><strong>ขอเชิญร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ</strong></em></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><em><strong>เนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2551</strong></em></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#3333ff;"><em><strong>ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน</strong></em></span></div><div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgz6Ba6YWY53FZ9jZoMq-pe8b-YYAiHP-NgpVoqOBGCBAtIfNeLLUYdwk9Azj59HnlHaS2qY7BDYV2GaRAHJT4U8hd5XiV-xRwZmqQRfk_9urtiC2D6XqC6lp6HuFaocDDx4U7N6Z3eDilK/s1600-h/q0003_182.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5233285538851418082" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgz6Ba6YWY53FZ9jZoMq-pe8b-YYAiHP-NgpVoqOBGCBAtIfNeLLUYdwk9Azj59HnlHaS2qY7BDYV2GaRAHJT4U8hd5XiV-xRwZmqQRfk_9urtiC2D6XqC6lp6HuFaocDDx4U7N6Z3eDilK/s320/q0003_182.jpg" border="0" /></a><span style="font-size:85%;color:#3333ff;"><strong> (ภาพสีน้ำมันของคุณ TE มือปั่น ขยันโพส ที่ </strong></span><a href="http://www.visualizer-club.com/"><span style="font-size:85%;color:#3333ff;"><strong>http://www.visualizer-club.com/</strong></span></a><span style="font-size:85%;color:#3333ff;"><strong>)</strong></span></div><div align="center"><span style="font-size:85%;color:#3333ff;">ขอขอบคุณเจ้าของภาพและเว็บดังกล่าวข้างต้นเป็นอย่างยิ่ง<br /></span></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-10955708250653376002008-05-19T07:02:00.001-07:002008-05-19T07:48:15.547-07:00วันวิสาขบูชาวันนี้เป็นวันวิสาขบูชา (วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖)<br />อยากจะถ่ายภาพพระจันทร์เต็มดวง...มาประกอบเรื่องนี้<br />แต่ไม่มีโอกาสเลยเพราะฝนตกฟ้าครึ้ม...มองไม่เห็นพระจันทร์สักนิด<br /><br />สำหรับเรื่อง "วันวิสาขบูชา"มีท่านผู้รู้เขียนไว้เยอะแล้ว<br />เลยรวบรวมเว็บมาให้ คลิกอ่านกันเองนะ<br /><a href="http://www.culture.go.th/k_day.php?F=visaka&FF=visaka">http://www.culture.go.th/k_day.php?F=visaka&FF=visaka</a><br /><a href="http://www.dopa.go.th/Wisa/wisa.htm">http://www.dopa.go.th/Wisa/wisa.htm</a><br /><a href="http://www.dhammathai.org/day/visaka.php">http://www.dhammathai.org/day/visaka.php</a><br /><a href="http://www.banfun.com/buddha/visaka.html">http://www.banfun.com/buddha/visaka.html</a><br /><a href="http://www.rayongzone.com/links/visa/">http://www.rayongzone.com/links/visa/</a><br /><a href="http://www.phutti.net/visaka/index.html">http://www.phutti.net/visaka/index.html</a><br /><a href="http://www.watkoh.com/data/ssn_phitee/visakha.php">http://www.watkoh.com/data/ssn_phitee/visakha.php</a><br /><a href="http://www.geocities.com/sakyaputto/wisakhaday.htm">http://www.geocities.com/sakyaputto/wisakhaday.htm</a><br /><a href="http://www.watbencha.com/visakha.html">http://www.watbencha.com/visakha.html</a><br /><div align="left">อื่น ๆ อีกมากมาย<br /><br /><br /><br /></div><div align="center"><strong></strong></div><a href="http://www.dopa.go.th/Wisa/wisa.htm"></a>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-53651502778612683872008-05-04T04:59:00.000-07:002008-05-06T05:59:59.000-07:00การให้อภัย<strong>จากหนังสือ "อภัยทาน รักบริสุทธิ์"<br />ในหน้า "อนุโมทนาบุญ"<br />ของ ปิยโสภณ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก<br />ผู้ออกแบบปก/รูปเล่ม ผู้ช่วยศาสตราจารย์นำชัย เต็มศิริเกียรติ</strong><br /><br />การให้อภัย คือการชำระสนิมใจขั้นละเอียด <br />ผู้ให้อภัยศัตรูได้ ศัตรูก็หมดคู่ต่อสู้บนเวที <br />แม้วันนี้เขายังไม่ให้อภัยเรา <br />แต่เขาก้เริ่มชกลมคนเดียวบนเวทีทะเลาะ <br />โดยไม่มีเราเป็นคู่ต่อสู้ นานเข้าเขาก็หมดแรงไปเอง<br /><br />การให้อภัย แม้จะเป็นเรื่องยาก <br />แต่ถ้าเราทำเป็นประจำ หัดทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน <br />จะเป็นของง่าย และเกิดขึ้นเองอย่างฉับพลัน<br />กระทั่งกลายเป็นสัญชาตญาณในการอภัย<br />หลายครั้งที่เราผูกโกรธ คนเจ็บคือเรา<br />เมื่อเราผูกอาฆาตพยาบาท ไฟอาฆาตเผาตัวเราเองอยู่ภายใน<br /><br />การให้อภัย เป็นวิธีระงับความโกรธ เกลียด อาฆาต <br />พยาบาท ปองร้าย อิจฉาริษยา อย่างดีที่สุด <br />อารมณ์เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องอื่นไกลเลย <br />หากแต่เป็นไฟร้อน ไฟร้าย <br />ที่สุมขอนนอนนิ่งอยู่ในใจเรา<br /><br />คิดว่าท่านผู้ประพันธ์และผู้พิมพ์เผยแพร่คงไม่ตำหนิติติง<br />ถ้าจะขออนุญาตเผยแพร่เนื้อหาอื่น ๆ ในหนังสือเล่มนี้ต่อไป <br />เพราะเห็นว่าอ่านแล้วสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ <br />ควรได้เผยแพร่ให้บุคคลทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ต่อ ๆ ไป<br />ในหนังสือพิมพ์ไว้ว่า <br />เผยแผ่เป็นธรรมทานโดย<br /><strong>โครงการหนังสือธรรมะ ธรรมทาน<br />คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่</strong><br /><br />ขอขอบพระคุณท่านผู้ประพันธ์และผู้พิมพ์เผยแพร่ไว้ ณ โอกาสนี้yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-89834140886562718132008-04-25T18:09:00.000-07:002008-12-12T15:13:52.430-08:00ปรัชญานะเนี่ย<a href="http://www.blogger.com/<center"></a><img alt="zwani.com myspace graphic comments" src="http://images.zwani.com/graphics/good_day/images/18.gif" border="0" /><strong><em><strong><em><strong><em><strong></strong></em></strong></em></strong></em></strong>
<br /><strong><em><strong><em><strong><em><strong><span style="font-size:130%;">..................เ</span></strong></em></strong></em></strong></em></strong><span style="font-size:130%;"><strong><em><strong><em><strong><em><strong>มื่อไม่มี..................
<br />
<br />.............. ก็ไม่สูญเสีย</strong></em></strong></em></strong></em></strong></em>...................</span>
<br />yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-38634419958898567722008-04-14T15:15:00.000-07:002008-05-06T06:14:27.727-07:00การปรับตัวเมื่อวานขับรถพาญาติพี่น้องไปตระเวนเล่นน้ำสงกรานต์ทั่วเมือง<br />ใช้เวลาอยู่ในท้องถนนประมาณ 5 ชั่วโมง<br />เห็นคนเล่นน้ำในช่วงขาไปก็มีความสุขกันดี<br />แต่พอขากลับก็ดูอ่อนระโหยโรยแรงกันไปแทบทั้งนั้น<br />สังเกตุจากคนในรถเราและรถคนอื่นก็เหมือน ๆ กัน<br />นอกจากนี้คนที่นั่งข้างในรถก็ยังอ่อนเพลียเหมือนกัน<br />เพราะอากาศร้อนจัด แต่ทุกคนก็มีความสุขดี <br />ฉะนั้น ถ้าใครยังไม่ได้มีโอกาสเล่นน้ำสงกรานต์<br />ก็น่าจะพยายามหาโอกาสออกไปเล่นให้ได้<br />เพราะอีกตั้งปีแน่ะกว่าจะเวียนมาใหม่<br />เกริ่นยาวขนาดนี้ไม่ใช่อะไรหรอก<br />จะบอกว่ารู้สึกเหนื่อย ก็เลยนอนเร็วเป็นพิเศษ<br />แต่ก่อนหลับก็ได้หยิบหนังสือมาอ่าน<br />เรื่อง "การปรับตัว" ในหนังสือ"มนุษย์" <br />ของ "คุณศิวโมกข์ ก้องญาณ"<br />เห็นว่าดี๊ดีจังเลย ก็ขออนุญาตคัดมาฝากอีกแล้ว<br />คงไม่ว่ากันนะ ถ้าจะคัดลอกเรื่องที่ดีมีคุณค่ามาให้อ่าน<br /><br />.....<strong>การปรับตัว.</strong>....<br />การปรับตัวที่ถูกต้อง<br />คือการปรับตัวเข้าหากฎธรรมชาติ<br />การดำเนินไปอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ<br />ย่อมราบรื่น เป็นสุข<br /><br />การปรับตัวให้เข้าหาบุคคล<br />เป็นการทำลายธรรมชาติของตน<br />และสร้างภาระใหม่ให้ตัวเอง<br /><br />ส่วนการปรับตัวเข้าหาสังคม<br />ขึ้นอยู่กับว่าสังคมนั้น<br />วิวัฒนาการใกล้สัจธรรมเพียงใด<br />ถ้าสังคมด้อยวิวัฒนาการ<br />ไม่จำเป็นต้องปรับตัวเข้าหา<br />ควรให้สังคมนั้นปรับเข้าหาตน<br /><br />บุคคลที่ยอมลดระดับความดีของตน<br />เข้าหาสังคมต่ำทราม<br />ชื่อว่าเป็นทาสสังคมประเภทหนึ่ง<br />ที่ยอมถูกจองจำธรรมชาติของตนเอง<br /><br />ขอขอบพระคุณ <strong>"คุณศิวโมกข์ ก้องญาณ"</strong><br />ที่กรุณาให้แนวคิดที่สร้างสรรค์yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-13847647309436757262008-04-12T22:48:00.000-07:002008-04-12T22:56:41.124-07:00ทำบุญ...วันสงกรานต์<a href="<a href="http://www.tpa.or.th/blogbox/entry.php?w=chaochao&e_id=164" _fcksavedurl="http://www.tpa.or.th/blogbox/entry.php?w=chaochao&e_id=164"><img src="http://widget.sanook.com/static_content/full/text/fced1ed64d6e152cb91cdfba631747ac_1205836881.gif" _fcksavedurl="http://widget.sanook.com/static_content/full/text/fced1ed64d6e152cb91cdfba631747ac_1205836881.gif" alt="สงกรานต์,water festival,รดน้ำดำหัว,กลิตเตอร์,แต่ง hi5" border=0 /></a>
<br />
<br />วันนี้ทำบุญวันสงกรานต์
<br />ผู้คนเต็มวัด…อาหารเต็มศาลา
<br />ทุกคนแย้มยิ้มอิ่มใจ
<br />ในวันดี…วันสงกรานต์
<br />
<br />yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-81984731579854206832008-03-27T17:56:00.001-07:002008-03-27T17:56:59.634-07:00ความเงียบyawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-68092822109830364532008-03-05T17:23:00.001-08:002008-04-06T06:50:56.876-07:00ความเมตตาเป็นพื้นฐานแห่งคุณธรรมทั้งปวง<div align="left">พรุ่งนี้เป็นวันพระ...เลยค้นคว้าเรื่องออกแนวธรรมะมาฝาก<br /><br /><span style="color:#999900;">..........ขงจื๊อ เป็นปราชญ์ของจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสดาเอกของโลก ชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าคำสอนของขงจื๊อทำให้คนจีนรู้จักการใช้ชีวิต รู้จักการปฏิบัติต่อครอบครัว และบรรพบุรุษ ตลอดจนการต่อสู้เพื่อการดำรงชีวิต ปฏิบัติตนอย่างไร จึงจะมีความสุขไม่เสื่อมคลาย และจิตใจสงบ<br />..........ในหลักคำสอนของขงจื๊อ ถือว่า ความมีเมตตาเป็นที่มาหรือเป็นพื้นฐานแห่งคุณธรรมทั้งปวง ขงจื๊อ เน้นให้มนุษย์รู้จักสร้างชีวิตที่ดีงามตั้งแต่แรกเกิด ให้ชาวจีนยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ให้ความเมตตากรุณาต่อทุกชีวิต และปลูกฝังให้เด็กหรือลูกหลานรักในความเป็นธรรม เห็นอกเห็นใจ พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อเด็กฝังใจในคุณธรรมแล้ว เขาเชื่อว่าผู้นั้นจะมีชีวิตที่ดีงามตลอดไป<br />..........ขงจื๊อมิได้สอนให้คนรู้จักเอาตัวรอดเพียงลำพัง แต่สอนให้ “เอาใจใส่และเป็นมิตรกับผู้อื่น เพราะมนุษย์จะบรรลุถึงความดีงาม โดยลำพังคนเดียวไม่ได้ เรายังต้องอาศัยสังคมจึงต้องช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น”<br />..........ขงจื๊อเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 72 ปี (พุทธศักราช 80) เขากล่าวในวาระสุดท้ายว่า “ขุนเขายังต้องพังทลาย ไม้ใหญ่ยังรู้จักหักโค่น คนก็ย่อมร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ”<br />..........แม้ขงจื๊อจะตายนานนับพัน ๆ ปีแล้ว แต่ “คัมภีร์ขงจื๊อ” ยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้<br /><br /></span>ที่มา หนังสือ คัมภีร์ขงจื๊อ ล.เสถียรสุต แปล</div><div align="left"><br /> <a title="แก้ไขบทความ" href="http://www.blogger.com/post-edit.g?blogID=7736140751996523470&postID=1598606734163317616"></a><br /><br /></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-61842660290564735912008-02-12T07:08:00.000-08:002008-02-12T07:19:21.125-08:00ความรัก<a href="<center><a href="http://www.zwani.com/graphics/valentines_day/"><img src="http://images.zwani.com/graphics/valentines_day/images/valentines122.gif" alt="zwani.com myspace graphic comments" border=0></a><br><a href="http://www.zwani.com/graphics/valentines_day/" target="_blank"><br />คนที่ต่ำกว่าเรา มารักเรา<br />ก็จะช่วยดุนดันเราขึ้นมาในทางสูง<br />คนที่เสมอกัน เมื่อรักเรา<br />เขาก็ช่วยป้องกันเรา และดึงไปในทางสูง<br />พวกที่สูงกว่าเรา เมื่อรักเรา<br />เขาก็ดึงเราขึ้นไปให้สูงไปตามเขานั่นเอง<br /><br />จากหนังสือ "คมธรรมท่านพุทธทาส"<br />คัดเลือกรวบรวมโดย "ไพโรจน์ อยู่มณเฑียร"yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-43783751899088463192008-02-08T15:19:00.000-08:002008-02-09T07:46:26.821-08:00จาก "รู้จักตัวเอง"อ่านหนังสือ "เต๋าแต้มสี" ของคุณ "ละเอียด ศิลาน้อย" รู้สึกประทับใจหลายเรื่อง<br />หน้าปกบอกว่าเทคนิคง่าย ๆ ในการใช้ชีวิตที่พลิกแพลงแง่มุมอย่างแยบคาย<br />แต่งแต้มสีสันของชีวิตให้สดใสด้วยความคิดแบบเต๋า<br />เป็นหนังสือที่อ่านง่าย ลีลาการเขียนเพลิดเพลินน่าอ่าน<br />ชอบหลายเรื่องในหนังสือเล่มนี้ เรื่องหนึ่งคือ " รู้จักตัวเอง"<br />อ่านเพื่อสอนใจตนเองได้ดี ขออนุญาตคัดลอกบางตอนมาให้อ่าน<br /><br /><span style="color:#999900;">คำว่ารู้จักตัวเองคำนี้มีความหมายกว้างขวางมากจริง ๆ<br />ท่านพุทธทาสภิกขุ เขียนเป็นกลอนว่า<br /><br />"จงรู้จักตัวเอง" คำนี้หมาย<br />ว่าค้นพบ แก้วได้ ในตัวท่าน<br />หานอกตัว ทำไม ให้ป่วยการ<br />ดอกบัวบาน อยู่ในเรา อย่าเขลาไป<br />ในดอกบัว มีมณี ที่เอกอุตม์<br />เพื่อมนุษย์ ค้นหา มาให้ได้<br />"การตรัสรู้ หรือรู้ สิ่งใด ๆ<br />ล้วนมาจาก ความรู้ ตัวสูเอง"<br /><br />สิ่งที่ดีที่สุดของมนุษย์หาได้ในกายนี้โดยมองลงไปที่ใจ<br />ให้เห็นสภาพเดิมของใจที่ปราศจากกิเลศ "ว่าง" เป็นพื้นฐาน<br />กิเลศ "วุ่น" จรมา เมื่อเกิดมีการกระทบระหว่างตากับรูป หูกับเสียง ฯลฯ<br />แล้วไม่มีสติกำหนดรู้ ว่ามันสักว่าธาตุกระทบกัน<br />ถ้าควบคุมทำใจได้ว่ากระทบก็สักว่ากระทบ<br />จิตก็จะว่าง แจ่มใสเบิกบานเสมอ<br />ตัวจริงของเราคือใจเดิมที่ว่าง หาให้เจอ ดูให้เห็น สัมผัสให้ได้<br />................................<br />เมื่อร่างกายเคลื่อนไหว ขยับตัว กะพริบตา อ้าปาก หันซ้าย ก้าวเดิน ฯลฯ<br />ให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายนั้น แล้วจะไม่พลัดเข้าไปหมกอยู่ในความคิด<br />จะเริ่มรู้จักความคิด เริ่มเห็นความคิด ซึ่งเป็นนักมายากลตัวก่อเรื่องก่อราว<br />แล้วจะพบกระแสแห่งธรรมในที่สุด<br />นั่นเป็นความหมายชั้นลึกของคำว่า "รู้จักตัวเอง"<br />อันสืบเนื่องมาจากการรู้จักและเห็นความคิดของตัวเอง<br />(ปกติผู้คนทั้งหลายคิดโดยไม่รู้ไม่เห็นความคิด<br />จึงถูกความคิดฉุดรั้ง/ผลักดันให้ทุรนทุรายทุกข์ระทม)<br />.................................<br /></span>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-62586129048460467642008-01-27T05:23:00.000-08:002008-01-27T05:41:54.424-08:00โกรธตอบดีไหม<span style="color:#666600;">ระยะนี้จะพบแต่คน...เครียด ๆ<br />อากาศเปลี่ยนแปลงมากไป...หรือไงก็ไม่รู้<br />โทษอากาศไว้ก่อน...ปลอดภัยดี<br />ไปตรงไหนเจอแต่คนหงุดหงิ๊ด...หงุดหงิด<br />พอดีได้รับแจกหนังสือ...(ชอบของฟรี)<br />ชื่อหนังสือ " อภัยทาน รักบริสุทธิ์ "<br />ผู้เขียน " ปิยโสภณ "<br />วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก<br />เผยแผ่เป็นธรรมทานโดย<br />โครงการหนังสือธรรมะ ธรรมทาน<br />คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่<br />ซึ่งจัดพิมพ์หนังสือ...เพื่อการเผยแผ่ความดีระหว่างกัน<br />เพื่อให้โลกสงบสุขร่มเย็น...เป็นปกติ<br />โดยให้ทุกคนเริ่มต้นนับหนึ่ง...ที่ตัวเรา<br />ที่ปกหลังหนังสือมีข้อความดังนี้<br /></span><br /><span style="color:#999900;">บางที คนที่เขาโกรธเรา หากเราโกรธตอบก็จะเป็น<br />การตอบรับกระแสกันเหมือนการโทรศัพท์<br />ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดรับโทรศัพท์<br />ฝ่ายที่โทรถึงก็หมดสิทธิ์จะคุยกับเรา<br />เพราะกระแสไม่สามารถส่งถึงกันได้<br /><br />การตอบรับซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นความดี<br />เป็นความรัก ความอบอุ่นก็ดีไป<br />แต่ถ้าเป็นความเกลียด ความโกรธสิ่งที่จะตามมา<br />คือการรับรู้และเก็บอารมณ์ทั้งโกรธ<br />และเกลียดนั้นไว้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย</span>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com6tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-69019408451600825152008-01-26T07:02:00.000-08:002008-02-29T07:35:28.693-08:00สรรเสริญ - นินทา<span style="color:#666600;">วันนี้มีญาติมาบ่น เรื่องโดนคนอื่นนินทาให้ฟัง<br />ญาติบอกว่าไม่ค่อยสบายใจ เลยแนะนำไปอย่างนี้<br />สรรเสริญ - นินทา เป็นเหมือนฝาแฝดกันไปไหนมักไปคู่กัน<br />ไม่เคยมีใครในโลกนี้แม้สักคนเดียว ที่ได้รับแต่คำสรรเสริญ<br />และก็ไม่มีใครในโลกนี้แม้สักคนเดียว ที่ได้รับแต่คำนินทา<br />ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ เราจะเบาใจ และจะทุกข์น้อย<br />ถ้าเราไม่ใส่ใจว่า ใครจะสรรเสริญหรือไม่<br />และไม่สนใจว่าใครจะนินทาอย่างไร<br />เราจะไม่ทุกข์ใจ ถ้าไม่มีคนสรรเสริญ<br />และจะไม่ดีใจจนเกินเหตุเมื่อมีคนสรรเสริญ<br />นอกจากนี้คนที่นินทาก็จะไม่สามารถทำให้เราหวั่นไหวได้<br />อีกหน่อยเขาก็เลิกไปเอง<br />เราควรคิดว่าเขาต้องมีปมด้อย<br />หรือไม่มั่นใจอะไรบางอย่างหรือหลายอย่าง<br />เขาจึงชอบนินทาคนอื่น<br />ที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดก็คือ<br />ถ้าเราไม่อยากให้คนอื่นนินทาเรา<br />เราก็อย่าไปนินทาคนอื่นละกัน<br /></span><span style="color:#999900;"><br />วันนี้มีเรื่อง"สรรเสริญ - นินทา"</span><br /><span style="color:#999900;">ที่กระทัดรัดเข้าใจง่ายและเป็นของจริงทั้งสิ้น<br />คัดจากหนังสือ "มนุษย์"ของ "คุณศิวโมกข์ ก้องญาณ" มาฝากอีก<br /><br /><strong><span style="font-size:130%;">..........สรรเสริญ..........</span></strong><br /><br />สรรเสริญ<br />ย่อมเป็นที่ชื่นชมของผู้มีอัตตา<br />และเป็นที่นิยมของคนอ่อนแอ<br />แต่ย่อมไม่เป็นที่ใยดีของวิสุทธิชน<br />และไม่เป็นที่แยแสของผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็ง<br /><br />หลักการมีอยู่ว่า<br />บุคคลที่ยังมีอัตตา<br />ไม่ควรได้รับการสรรเสริญ<br />เพราะการเยินยอทำให้หลงตน<br />อัตตาเติบโต<br />ความโง่แผ่คลุมมากขึ้น<br />ผู้ใดสรรเสริญผู้อื่นด้วยความกลัวเกรง<br />นับเป็นผู้ทำลายตัวเองด้วยใจเขลา<br />และทำร้ายผู้อื่นด้วยปัญญาเบา<br /><br />เป็นความจริงอยู่ว่า<br />บุคคลใดแสวงหาการสรรเสริญ<br />ย่อมไม่ได้รับการสรรเสริญแท้จริง<br />บุคคลใดไม่ไยดีกับการสรรเสริญ<br />ย่อมได้รับการสรรเสริญที่แท้จริง<br /><br /><span style="font-size:130%;"><strong>..........นินทา..........<br /><br /></strong></span>ผู้นินทาคนอื่น<br />คือผู้ไม่พึงใจในตนเอง<br />ไม่มั่นใจในตนเอง<br /><br />การนินทาคนอื่น<br />ทำให้เมตตาลดน้อยลง<br />ยิ่งเมตตาน้อยลงเพียงใด<br />จิตใจก็ห่อเหี่ยวมากเพียงนั้น<br />ยิ่งจิตใจห่อเหี่ยวมากเท่าใด<br />ชีวิตก็หมองเศร้ามากเท่านั้น<br /><br />ยิ่งนินทาคนอื่นมากเท่าใด<br />ตัวผู้นินทาจะมีความระแวงมากเทียมนั้น<br />ไม่อาจคบหาผู้อื่นให้สนิทใจได้<br />และความผิดพลาดมากที่สุด<br />คือการไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่นวิจารณ์ตนอย่างตรงไปตรงมา<br />จนทำให้เขาต้องนินทาลับหลัง<br />เกิดผลเสียต่อตนเอง<br />ด้วยเขาย่อมไม่จริงใจ<br />เกิดผลเสียต่อผู้นินทา<br />ด้วยเขาย่อมขลาดกลัวมากขึ้น<br />เป็นการทำลายตนเองและจิตใจผู้อื่นอย่างเร้นลึก</span><br /><span style="color:#999900;"></span><br /><span style="color:#999900;"><span style="color:#666600;">ในหนังสือ "มนุษย์" มีอีกมากมายหลายเรื่องที่น่าสนใจ<br />ถ้าเป็นไปได้น่าจะได้ซื้อไว้อ่านกันทั้งเล่ม<br />หน้าปกก็สวยดี<br />แต่ไม่แน่ใจว่ายังมีจำหน่ายอยู่ไหม<br />เพราะเล่มที่มีอยู่ก็ซื้อไว้นานแล้วyawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-10767348929420500812008-01-14T02:52:00.000-08:002008-01-17T07:13:37.880-08:00เสรีภาพแห่งการให้อภัย<span style="color:#666600;">วันนี้รู้สึกอารมณ์บ่จอย...หงุดหงิดกับคำพูดบางคำของคนบางคน<br />ขนาดบอกว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดีนะเนี่ย</span><br /><span style="color:#666600;">บางครั้งที่มีคนใช้วจีกรรมทำให้เราไม่สบายใจ</span><br /><span style="color:#666600;">จะพยายามใช้ทางพระเข้าข่ม...นึกไว้เสมอว่า</span><br /><span style="color:#666600;">คนทุกคนในโลกนี้เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น </span><br /><span style="color:#666600;">แต่วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงมาก</span><br /><span style="color:#666600;">กลางคืนเย็นจัด กลางวันร้อนจัด (โทษอากาศไว้ก่อน)</span><br /><span style="color:#666600;">พอได้ยินถ้อยคำที่มากระทบกระเทือนเรา</span><br /><span style="color:#666600;">เห็นช้างเท่าหมูเลย...</span><br /><span style="color:#666600;">รู้สึกทันทีว่าฮึ่ม... (แต่ไม่แฮ่)...ต้องโต้ตอบบ้าง<br />ก็พูดกลับไปนิดหน่อยพอประมาณ<br />พูดไปแล้วมาคิดทบทวนตัวเองตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดจังเลย<br />ทำไมไม่คุมสติตัวเองให้อยู่<br />กลับถึงบ้านเลยค้นหาหนังสืออ่านเตือนสติตัวเอง<br /></span><br /><span style="color:#666600;">ได้หนังสือชื่อ "เสรีภาพแห่งการให้อภัย"<br />The Freedom of Forgiveness<br />เขียนโดย เดวิด อ๊อกเบิร์กเกอร์ (David Augsburger)<br />แปลโดย มณฑาทิพย์ วัฒนวงศ์<br /></span><br /><span style="color:#666600;">อ่านอีกหนึ่งรอบ...เคยอ่านไปแล้วหลายรอบ<br />เพราะชอบน่ะซี...สอนใจตัวเองได้ดีมาก<br />ลองดูสักตอนสองตอนนะ</span><br /><br /><span style="font-size:130%;color:#999900;"><strong>ทำไมฉันต้องให้อภัย<br /></strong></span><span style="color:#999900;">...พวกเราส่วนมากมักจะติดอยู่ที่จุดนี้ และถามว่า<br />"ทำไม ๆ ทำไม ถึงต้องให้อภัย?<br />...ทำไมคนที่ทำผิดด่อฉันไม่ต้องชดใช้ค่าความผิดของเขาก่อนเล่า?<br />.........................................................<br />...ถ้ามีการตัดสินความเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามธรรมชาติ<br />ก็หมายความว่าจะต้องมีใครสักคนเป็นผู้ชำระชดใช้<br />...การให้อภัยดูจะเป็นเรื่องง่ายเกินไป<br />ควรจะเป็นตาแทนตา โลหิตชดใช้ด้วยโลหิตมากกว่า<br />...ใช่ คุณอาจต้องการฟันแทนฟันในการตอบแทนหรือแก้แค้น<br />แต่จะเรียกร้องอะไรเป็นค่าชดใช้..........................<br />...แล้วการแก้แค้นล่ะ?<br />ถ้าคุณไม่อาจจะได้รับการชดใช้ที่เหมาะสมจากศัตรู<br />อย่างน้อยคุณก็อาจจะล้างแค้นได้<br />โดยการกระทำกลับต่อเขาเหมือนที่เขาได้กระทำต่อคุณ<br />...การกระทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าคุณได้กระทำตัวเอง<br />ให้ตกต่ำลงไปเท่าเทียมกับศัตรูของคุณ<br />มึคำกล่าวไว้ว่า <span style="color:#666600;">"การทำร้ายจะทำให้คุณอยู่ต่ำกว่าศัตรูของคุณ<br />การผูกพยาบาทจะทำให้คุณเท่าเทียมกับศัตรูของคุณ<br />แต่การให้อภัยจะยกคุณขึ้นเหนือทั้งหมด"<br /></span><br /><span style="font-size:130%;"><strong>การให้อภัย การลืมเลือนและการปล่อยให้ผ่านไป</strong><br /></span></span><span style="color:#999900;">นักศาสนศาสตร์ชื่อ แฟรงค์ สแต็ค ได้เขียนถึงการให้อภ้ยที่แท้จริง ดังนี้<br />...การให้อภัยและการลืมนั้นเกี่ยวข้องกัน<br />แต่การให้อภัยนั้นต้องมาก่อนการลืม<br />ในการให้อภัย ผู้นั้นจะต้องย้อนคิดถึงความเจ็บปวดความสะเทือนใจ<br />และการอยุติธรรมที่ได้กระทำไปแล้วก่อน<br />...ส่วนการลืมเป็นการละเลยไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามทำร้ายอะไรเรา<br />โดยการขับไล่ความรู้สึกที่ว่ามีผู้กระทำผิดต่อเรา..................<br /><span style="color:#666600;">การลืมนั้นเป็นแง่ลบและเป็นการนิ่งเฉย<br />การให้อภัยเป็นแง่บวกและเป็นการสร้างสรรค์</span><br />ก่อนที่ผู้ใดจะสามารถให้อภัยและลืมได้<br />ผู้กระทำให้ขุ่นเคืองและผู้ถูกกระทำต้องรำลึกร่วมกัน<br />คิดถึงการกระทำผิดที่ได้กระทำไปร่วมกัน<br />จบสิ้นความรู้สึกนั้นร่วมกัน เสริมสร้างพันธมิตรใหม่ร่วมกัน<br />และลืมเลือนทุกสิ่งที่ผ่านมาด้วยกัน<br />การทบทวนความจำ การเสริมสร้างใหม่<br />การให้อภัยและการลืมล้วนแต่จะช่วยให้เราได้เพื่อนอีกคนหนึ่งกลับมา<br />..........................................................<br />การลืมเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการให้อภัยอย่างสมบูรณ์<br />การลืมไม่ใช่ขั้นตอนแรกของการให้อภัย<br />มันเป็นขั้นตอนสุดท้าย<br /><br /></span><span style="color:#666600;">นี่คือบางส่วนเท่านั้น...ถ้าสนใจลองหาอ่านนะ<br />มีคุณค่าทุกตัวอักษรเลย</span><span style="color:#666600;"><br /><br /><br /><br /></span><span style="color:#666600;"></span><span style="color:#666600;"></span><span style="color:#666600;"></span><span style="color:#ffcc00;"><span style="color:#000066;"></span></span>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com8tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-56778765825020430052008-01-12T00:35:00.000-08:002008-01-13T06:36:56.936-08:00รักษาใจให้ดี...ในปีใหม่<span style="color:#999900;">ได้รับ ส.ค.ส.2551 จากเพื่อน<br />เป็นหนังสือชื่อ " ส.ค.ส. 2551 รักษาใจให้ดี ในปีใหม่ "<br />(ส.ค.ส. จากสองศรีพระศาสนา)<br />ปกหน้าเป็นภาพท่านปัญญานันทภิกขุ...ปกหลังเป็นภาพท่านพุทธทาสภิกขุ<br />ข้างในมีบทกลอนอวยพรปีใหม่และคำสอนของทั้ง 2 ท่าน<br />ขออนุญาตคัดบางตอนมาฝาก </span><br /><span style="color:#999900;"><br />คำ : พุทธทาสภิกขุ<br />อันชีวิต ผลิตขึ้นมา จากพระธรรม<br />ด้วยพระธรรม โดยพระธรรม นำวิถี<br />สุทธิ ปัญญา เมตตา และขันตี<br />ปีใหม่มี มากกว่าเก่า พวกเราเอย<br />..................................<br />คำ : พุทธทาสภิกขุ<br />ขออวยพร วอนอ้าง คุณพระพุทธ<br />ได้ปกป้อง ผองมนุษย์ โศกกษัย<br />ขออ้างคุณ พระธรรม อันอำไพ<br />ช่วยคุ้มสัตว์ ทั่วไป ไร้โรคา<br />ขออวยพร วอนอ้าง คุณพระสงฆ์<br /></span><div align="left"><span style="color:#999900;">ช่วยธำรง สุขสันต์ กันทั่วหน้า</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">ข้าร่ำร้อง ลำนำ พร่ำภาวนา</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">ทั่วโลกา สิ้นทุกข์ ผาสุกเอย</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;"></span></div><div align="left"><span style="color:#999900;"></span></div><div align="left"><span style="color:#999900;"></span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">..................................</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">คำสอนของท่านปัญญานันทภิกขุ</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">ขึ้นปีใหม่...มาร่วมใจประพฤติธรรมดังนี้กันเถิด</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">1. มีความเคารพธรรมยิ่งชีวิต</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">2. มีความรักเพื่อนมนุษย์ไม่จำกัด</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">3. อย่าทำตนให้เป็นพิษเป็นภัยแก่ใคร ๆ</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">4. อย่ามัวเมาในวัตถุจนลืมคุณค่าทางจิตใจ</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">5. หมั่นตรวจสอบตนเองบ่อย ๆ</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">6. หมั่นแก้ไขตนเองให้ดีขึ้นทุกวินาที</span></div><div align="left"><span style="color:#999900;">7. สามัคคีดีกว่าความแตกแยก</span></div><div align="left"></div><div align="left"></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-43965563339783630522008-01-08T08:56:00.000-08:002008-01-08T09:10:17.008-08:00การแก้ปัญหา-การกลบปัญหา<span style="color:#999900;"><span style="color:#333300;">เรื่องนี้จากหนังสือ "มนุษย์" ของ คุณ"ศิวโมกข์ ก้องญาณ"<br /><br /></span>ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เกิดมาแล้วไม่ดับไป<br />ไม่มีปัญหาใดที่เกิดแล้วแก้ไขไม่ได้<br /><br />การแก้ปัญหา<br />ต้องหันหน้าเข้าหาปัญหา<br />ศึกษาที่มา ที่เป็น และที่ไปของปัญหา<br />แล้วตัดกระบวนการก่อปัญหา<br />และถอนรากเหง้าให้สิ้นไป<br /><br />การหนีปัญหาที่เกิดขึ้น<br />โดยการสร้างอารมณ์ใหม่<br />หาใช่การแก้ปัญหาไม่<br />แต่เป็นการกลบปัญหา<br />เมื่อใดเพิกสิ่งใหม่ออก<br />ย่อมพบปัญหาเดิมเร้นอยู่<br /><br />ดังนั้น<br />ยามมีปัญหา<br />มิควรหนีปัญหา<br />แต่ควรเผชิญปัญหา<br />แล้วแก้ไขให้ปราศไป<br />ด้วยปัญญาอันสุขุมคัมภีรภาพ<br /><br />ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งในโลกนี้เป็นปัญหาสำหรับคนหนึ่ง<br />ส่วนอื่น ๆ ในโลกนี้ก็มีปัญหาสำหรับเขาเช่นกัน<br />ด้วยโลกนั้นมิใช่ปัญหา<br />แต่ปัญหาคือความคิดในกมลของตนเอง<br /><br /></span><span style="color:#333300;">ขอขอบคุณ คุณ"ศิวโมกข์ ก้องญาณ"<br />ที่ได้ให้แนวคิดในการแก้ปัญหา</span>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com3tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-80139606217456387502008-01-04T02:38:00.000-08:002008-01-04T09:14:59.023-08:00ถวายความอาลัยแด่.....สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ.....<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglJFNuGvJY1xD_R3wu5eLhJdGgneJmGhgNKl-MqyaY8o3mprVolz9u-W2woO10D1tG43rta6Zc0QUuG2y6R44YUuFrGndl9iBJ4cuivc4LLt_MUha2f7bX9Y9rPdoc6QeUu_ObBNTKI1nC/s1600-h/PR01Q40.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5151571839855883074" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEglJFNuGvJY1xD_R3wu5eLhJdGgneJmGhgNKl-MqyaY8o3mprVolz9u-W2woO10D1tG43rta6Zc0QUuG2y6R44YUuFrGndl9iBJ4cuivc4LLt_MUha2f7bX9Y9rPdoc6QeUu_ObBNTKI1nC/s320/PR01Q40.jpg" border="0" /></a><br /><div align="center"><strong>...ข้าพเจ้าขอร่วมถวายความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ</strong><a class="image" title="สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์" href="http://th.wikipedia.org/wiki/à¸"></a></div><div align="center"><strong>ในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส<br />ราชนครินทร์ ขอพระองค์ทรงเสด็จสู่สรวงสวรรคาลัย</strong></div><div align="center"><strong>และทรงสถิตย์ในใจพสกนิกรชาวไทยตลอดไป...</strong></div><div align="center"></div><div align="center"><span style="color:#000066;"><strong></strong></span></div><div align="center"><span style="color:#000066;"><strong></strong></span></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5831458830721825035.post-69055281908865596312007-12-31T07:55:00.000-08:002008-01-04T09:43:57.183-08:00สวัสดีปีใหม่ 2551<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgQvnTEU3tTsdmPF25JWtHNxbyfvv78tH33iB_gmZ-xAKM88dJI1UuWvr3RImZgqEzNqmI7Zw-H-2tK-hU8ebLrqVZfR_QhBDT3tH9v4sc8J0Ay3A5w1uv3a5zWmfpw-5Zv-qTVQ5E4eb8S/s1600-h/à¸"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5150168171529105986" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" height="272" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgQvnTEU3tTsdmPF25JWtHNxbyfvv78tH33iB_gmZ-xAKM88dJI1UuWvr3RImZgqEzNqmI7Zw-H-2tK-hU8ebLrqVZfR_QhBDT3tH9v4sc8J0Ay3A5w1uv3a5zWmfpw-5Zv-qTVQ5E4eb8S/s320/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%AA.jpg" width="334" border="0" /></a><br /><div align="center"><span style="font-size:130%;"><span style="color:#996633;">ขอพระศรี รัตนะ มาคุ้มครอง </span></span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#996633;">ขอเทพไท้ ในทั้งผอง ป้องปัดเป่า </span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#996633;">ขอให้ปี ใหม่นี้ เป็นปีเรา </span></div><div align="center"><span style="font-size:130%;color:#996633;">คลายทุกโศก โรคฤาเศร้า อย่ารังควาญ</span></div>yawaiamhttp://www.blogger.com/profile/02997228471034796377noreply@blogger.com0