วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2551

เสรีภาพแห่งการให้อภัย

วันนี้รู้สึกอารมณ์บ่จอย...หงุดหงิดกับคำพูดบางคำของคนบางคน
ขนาดบอกว่าเป็นคนมองโลกในแง่ดีนะเนี่ย

บางครั้งที่มีคนใช้วจีกรรมทำให้เราไม่สบายใจ
จะพยายามใช้ทางพระเข้าข่ม...นึกไว้เสมอว่า
คนทุกคนในโลกนี้เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่วันนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ สงสัยเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงมาก
กลางคืนเย็นจัด กลางวันร้อนจัด (โทษอากาศไว้ก่อน)
พอได้ยินถ้อยคำที่มากระทบกระเทือนเรา
เห็นช้างเท่าหมูเลย...
รู้สึกทันทีว่าฮึ่ม... (แต่ไม่แฮ่)...ต้องโต้ตอบบ้าง
ก็พูดกลับไปนิดหน่อยพอประมาณ
พูดไปแล้วมาคิดทบทวนตัวเองตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดจังเลย
ทำไมไม่คุมสติตัวเองให้อยู่
กลับถึงบ้านเลยค้นหาหนังสืออ่านเตือนสติตัวเอง

ได้หนังสือชื่อ "เสรีภาพแห่งการให้อภัย"
The Freedom of Forgiveness
เขียนโดย เดวิด อ๊อกเบิร์กเกอร์ (David Augsburger)
แปลโดย มณฑาทิพย์ วัฒนวงศ์

อ่านอีกหนึ่งรอบ...เคยอ่านไปแล้วหลายรอบ
เพราะชอบน่ะซี...สอนใจตัวเองได้ดีมาก
ลองดูสักตอนสองตอนนะ


ทำไมฉันต้องให้อภัย
...พวกเราส่วนมากมักจะติดอยู่ที่จุดนี้ และถามว่า
"ทำไม ๆ ทำไม ถึงต้องให้อภัย?
...ทำไมคนที่ทำผิดด่อฉันไม่ต้องชดใช้ค่าความผิดของเขาก่อนเล่า?
.........................................................
...ถ้ามีการตัดสินความเกี่ยวกับเรื่องนี้ตามธรรมชาติ
ก็หมายความว่าจะต้องมีใครสักคนเป็นผู้ชำระชดใช้
...การให้อภัยดูจะเป็นเรื่องง่ายเกินไป
ควรจะเป็นตาแทนตา โลหิตชดใช้ด้วยโลหิตมากกว่า
...ใช่ คุณอาจต้องการฟันแทนฟันในการตอบแทนหรือแก้แค้น
แต่จะเรียกร้องอะไรเป็นค่าชดใช้..........................
...แล้วการแก้แค้นล่ะ?
ถ้าคุณไม่อาจจะได้รับการชดใช้ที่เหมาะสมจากศัตรู
อย่างน้อยคุณก็อาจจะล้างแค้นได้
โดยการกระทำกลับต่อเขาเหมือนที่เขาได้กระทำต่อคุณ
...การกระทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าคุณได้กระทำตัวเอง
ให้ตกต่ำลงไปเท่าเทียมกับศัตรูของคุณ
มึคำกล่าวไว้ว่า "การทำร้ายจะทำให้คุณอยู่ต่ำกว่าศัตรูของคุณ
การผูกพยาบาทจะทำให้คุณเท่าเทียมกับศัตรูของคุณ
แต่การให้อภัยจะยกคุณขึ้นเหนือทั้งหมด"

การให้อภัย การลืมเลือนและการปล่อยให้ผ่านไป
นักศาสนศาสตร์ชื่อ แฟรงค์ สแต็ค ได้เขียนถึงการให้อภ้ยที่แท้จริง ดังนี้
...การให้อภัยและการลืมนั้นเกี่ยวข้องกัน
แต่การให้อภัยนั้นต้องมาก่อนการลืม
ในการให้อภัย ผู้นั้นจะต้องย้อนคิดถึงความเจ็บปวดความสะเทือนใจ
และการอยุติธรรมที่ได้กระทำไปแล้วก่อน
...ส่วนการลืมเป็นการละเลยไม่สนใจว่าฝ่ายตรงข้ามทำร้ายอะไรเรา
โดยการขับไล่ความรู้สึกที่ว่ามีผู้กระทำผิดต่อเรา..................
การลืมนั้นเป็นแง่ลบและเป็นการนิ่งเฉย
การให้อภัยเป็นแง่บวกและเป็นการสร้างสรรค์

ก่อนที่ผู้ใดจะสามารถให้อภัยและลืมได้
ผู้กระทำให้ขุ่นเคืองและผู้ถูกกระทำต้องรำลึกร่วมกัน
คิดถึงการกระทำผิดที่ได้กระทำไปร่วมกัน
จบสิ้นความรู้สึกนั้นร่วมกัน เสริมสร้างพันธมิตรใหม่ร่วมกัน
และลืมเลือนทุกสิ่งที่ผ่านมาด้วยกัน
การทบทวนความจำ การเสริมสร้างใหม่
การให้อภัยและการลืมล้วนแต่จะช่วยให้เราได้เพื่อนอีกคนหนึ่งกลับมา
..........................................................
การลืมเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการให้อภัยอย่างสมบูรณ์
การลืมไม่ใช่ขั้นตอนแรกของการให้อภัย
มันเป็นขั้นตอนสุดท้าย

นี่คือบางส่วนเท่านั้น...ถ้าสนใจลองหาอ่านนะ
มีคุณค่าทุกตัวอักษรเลย




8 ความคิดเห็น:

chatee กล่าวว่า...

ขยันเหมือนกันนะเราหาอะไรมาโพส์ได้ตลอด

yawaiam กล่าวว่า...

ขยันนิดหน่อย...ขี้เกียจม๊ากมาก
แต่ยังไงก็คงขยันสู้บล็อกที่เอารูปลงทุกวันไม่ได้หรอก

siamesekid กล่าวว่า...

เห็นด้วยกับความขยันของพี่ yawaiam
เราเห็นว่าเราน่าจะมอบโล่ให้พี่ โทษฐานที่ขยันโพสท์
บล็อกเดียวยังไม่พอมีหลายบล็อกซะด้วย :)
มีวินัยดีค่ะ
----
เราคาดว่าจะตามบล็อกนี้เป็นหลัก และจะไปแจมดูบล็อกอื่นของพี่เป็นระยะๆ บล็อกนี้เป็นด้านหนึ่งของชีวิตที่เราไม่ค่อยรู้จัก นั่นคือด้านธรรมะ และปรัชญา อย่างวันนี้เป็นบทเรียนเรื่องการให้อภัย อ่านแล้วมันเจ็บแปลบยังไงชอบกล เรารู้สึกว่ายังทำไม่ได้ ทำได้อย่างมากก็แค่ " ทำเป็นลืม " การให้อภัย เราอยากจะเชื่อว่ามันทำได้จริงๆ แต่เราคงต้องฝึกมันนาน...หรือน้าน นาน
หรือนานนนนกว่านั้นก็ไม่รู้

yawaiam กล่าวว่า...

ขอขอบคุณในมิตรไมตรีของคุณ siamesekid
การฝากความคิดเห็นทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น
ก็จะตั้งใจค้นคว้าข้อมูลที่มีประโยชน์มาเผยแพร่
เพื่อประโยชน์ของตนเองของผู้อื่นและของสังคม

เรื่องการฝึกการให้อภัยนั้นจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน
ก็อยู่ที่ตัวเรานั่นแหละ ถ้าเราพยายามมองโลกในแง่ดี
มองผู้อื่นว่าเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทุกคน
ความรู้สึกเห็นใจความรู้สึกให้อภัยก็จะเกิดเอง
มีคนบอกว่าทำอะไรซ้ำ ๆ 21 ครั้งแล้วจะเป็นนิสัย
ที่เขียนนี่ก็เป็นการเตือนสติตนเองไปพร้อม ๆ กัน

Unknown กล่าวว่า...

สวัสดีค่ะ รินสนใจอยากอ่านหนังสือเล่มนี้ เสรีภาพแห่งการให้อภัย ไม่ทราบว่าจะหาซื้อได้ที่ไหนคะ หรือว่าเป็นของสำนักพิมพ์ไหนคะ รบกวนผู้รู้ลงข้อมูลให้ด้วยได้มั้ยคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

yawaiam กล่าวว่า...

เรียน คุณ SAWARIN ดีใจมาก ๆ เลยที่คุณชอบหนังสือ "เสรีภาพแห่งการให้อภัย" เป็นหนังสือที่เพื่อนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์เป็นคนแนะนำให้อ่าน
ข้าพเจ้าซื้อที่จังหวัดเชียงใหม่ จำชื่อร้านไม่ได้ และตอนนี้ก็ไปลืมหนังสือไว้ตรงไหนก็ไม่รู้ กำลังพยายามค้นหาอยู่ ถ้าเจอแล้วจะแจ้งให้ทราบว่าเป็นของโรงพิมพ์ใดนะจ๊ะ หวังว่าคุณคงกลับเข้ามาอ่านตรงนี้

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณมากๆค่ะ รินพยายามอยู่หลายวันเพื่อที่จะค้นหาร้านที่จำหน่ายหรือว่าสำนักพิมพ์ เพราะจะทำให้รินหาซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ง่ายขึ้น รินอยากได้หนังสือเล่มนี้จริงๆ ค่ะ รินจะแวะมาทักทายในเว็บให้บ่อยที่สุดนะคะ ขอบคุณค่ะสำหรับเว็บดีๆแบบนี้

yawaiam กล่าวว่า...

ขออภัยด้วยนะจ๊ะ ที่ยังหาหนังสือไม่เจอเลยน่ะ
ถ้าเจอเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบโดยด่วนเลย