วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

พุทธศาสนา...ศิลปะแห่งการครองชีวิต

ได้อ่านหนังสือ " คู่มือมนุษย์ " ของ "ท่านพุทธทาสภิกขุ "
ท่านพุทธทาสได้ให้มุมมองเกี่ยวกับพุทธศาสนาไว้น่าสนใจจริง ๆ

ศาสนาเหมือนกับของหลายเหลี่ยม...
คนเราย่อมเชื่อความคิดเห็นของตัวเอง
เพราะฉะนั้น ความจริงหรือสัจจะสำหรับคนหนึ่ง ๆ นั้น
มันอยู่ตรงที่ว่าเขาเข้าใจและมองเห็นเท่าไรเท่านั้นเอง

สิ่งที่เรียกว่า " ความจริง " ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
คนเราเข้าถึงปัญหาหนึ่ง ๆ ได้ตื้นลึกกว่ากัน
หรือด้วยลักษณะที่ต่างกันและด้วยสติปัญญาที่ต่างกัน
สิ่งใดที่อยู่เหนือสติปัญญาความรู้ความเข้าใจของตน
หรือตนยังไม่เข้าใจ คนนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นความจริงของเขา
ถ้าเขาจะพลอยว่าจริงไปตามผู้อื่น
เขาก็รู้สึกอยู่แก่ใจว่า ไม่เป็นความแท้ความจริงของเขาเลย
ความจริงของคน ๆ หนึ่งนั้น จะเดินคืบหน้าได้เสมอ
ตามสติปัญญาความรู้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ วัน จนกว่าจะถึงความจริงขั้นสุดท้าย
คนเรามีการศึกษามาต่างกัน และมีหลักพิจารณาสำหรับจะเชื่อต่าง ๆ กัน
ฉะนั้น ถ้าจะเอาสติปัญญาที่ต่างกันมาดูพทธศาสนา
ก็จะเกิดความคิดเห็นต่างกันไป
ทั้งนี้เพราะว่าพุทธศาสนาก็มีอะไร ๆ ครบทุกอย่างที่จะให้คนดู
.........
ถ้าจะมองด้วยสายตาของนักศีลธรรม ก็จะเห็นว่า พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งศีลธรรม (Moral)
พุทธศาสนาอีกส่วนหนึ่ง สูงขึ้นไปเป็นสัจจธรรม (Truth)
พุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นศาสนา (Religion)
พุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นจิตวิทยา (Psychology)
พุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นปรัชญา (Philosophy)
พุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นวิทยาศาสตร์ (Science)
พุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นตรรกวิทยา (Logic)
จะเห็นว่าพุทธศาสนามีหลายเหลี่ยมหลายมุมที่ควรศึกษา
แต่ท่านพุทธทาสยืนยันว่า " พุทธศาสนาเหลี่ยมซึ่งชาวพุทธควรสนใจที่สุด คือ เหลี่ยมที่เป็นศาสนา "
หมายถึงวิธีปฏิบัติโดยรวบรัด เพื่อให้รู้ความจริงว่าสิ่งทั้งปวงเป็นอะไร
จนถอนความยึดถือหลงใหลต่าง ๆ ออกมาเสียจากสิ่งทั้งปวงได้
การกระทำเช่นนี้เรียกว่า เราเข้าถึงตัวพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นพุทธศาสนา
มีผลดียิ่งไปกว่าที่จะถือเป็นเพียงศีลธรรมขั้นพื้นฐาน
และสัจจธรรมอันเป็นความรู้ที่ลึกซึ้งอย่างเดียว โดยไม่ปฏิบัติอะไร
และเป็นผลดีกว่าที่จะถือเป็นปรัชญา ที่มีไว้คิดไว้นึกไว้เถียงกันอย่างสนุก ๆ แล้วไม่ละกิเลสอะไรได้
หรือดีกว่าที่จะถือเป็นเพียงวัฒนธรรม สำหรับการประพฤติที่ดีงามน่าเลื่อมใส
ในด้านสังคมแต่เพียงอย่างเดียว
อย่างน้อยที่สุด เราทั้งหลายควรถือ พุทธศาสนาในฐานะเป็นศิลปะ (Art)
ซึ่งในที่นี้หมายถึงศิลปะแห่งการครองชีวิต
คือเป็นการกระทำที่แยบคายสุขุม ในการที่จะมีชีวิตอยู่เป็นมนุษย์
ให้น่าดูน่าชมน่าเลื่อมใสน่าบูชา เป็นที่จับอกจับใจแก่คนทั้งหลาย
จนคนอื่นพอใจทำตามเราด้วยความสมัครใจไม่ต้องแค่นเข็นกัน
เราจะมีความงดงามในเบื้องต้น ด้วยศีลบริสุทธิ์
มีความงดงามในท่ามกลาง ด้วยการมีจิตใจสงบเย็น เหมาะสมที่จะทำงานในด้านจิต
มีความงดงามในเบื้องปลาย ด้วยความสมบูรณ์แห่งปัญญา
คือรู้แจ้งสิ่งทั้งปวงว่าอะไรเป็นอะไร จนไม่มีความทุกข์เกิดขึ้นเพราะสิ่งทั้งปวงนั้น
เมื่อใครมีชีวิตอยู่ด้วยความงาม 3 ประการ เช่นนี้แล้วถือว่าเป็นผู้มีศิลปะแห่งการดำรงชีพอย่างสูงสุด
ชาวตะวันตกหันมาสนใจพุทธศาสนา ในฐานะเป็นศิลปะแห่งชีวิตโดยนัยนี้เป็นอันมาก
และกล่าวขวัญกันมากกว่าแง่อื่น ๆ
การที่เราเข้าถึงตัวแท้ของพระพุทธศาสนา จนถึงกับนำมาใช้เป็นแบบแห่งการครองชีวิตได้นั้น
มันทำให้เกิดความบันเทิงรื่นเริงตามทางของธรรมะ ไม่เหงาหงอยไม่เบื่อหน่าย
หรือหวาดกลัวดังที่เกรงกันอยู่ว่า ถ้าละกิเลสกันเสียแล้วชีวิตนี้จะแห้งแล้งไม่มีรสชาติอะไรเลย
หรือถ้าปราศจากตัณหาต่าง ๆ โดยสิ้นเชิงแล้ว คนเราจะทำอะไรไม่ได้
หรือไม่คิดทำอะไรอย่างนี้เป็นต้น
แต่โดยที่แท้แล้ว ผู้ดำรงชีวิตอยู่อย่างถูกต้อง ตามศิลปะแห่งการครองชีวิตของพระพุทธเจ้านั้น
คือผู้มีชัยชนะอยู่เหนือสิ่งทั้งปวงที่เข้ามาแวดล้อมตน
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ บุคคล สิ่งของหรืออะไรก็ตาม
จะเข้ามาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และทางใจก็ตาม ย่อมจะเข้ามาในฐานะผู้แพ้
ไม่อาจจะทำให้เกิดความมืดมัว สกปรก เร่าร้อนให้แก่ผู้นั้นได้
อากัปกิริยาที่เป็นฝ่ายชนะอารมณ์ทั้งปวงนี้ ย่อมเป็นที่บันเทิงเริงรื่นอย่างแท้จริง
และนี่คือข้อที่ควรถือเป็นศิลปะในพุทธศาสนา...


4 ความคิดเห็น:

yo กล่าวว่า...

"ศิลปะแห่งการครองชีวิต" ทั้งที่หนังสือของท่าน "พุทธทาสภิกขุ" มีให้อ่านตามร้านหนังสือหลายแห่ง หรือแม้แต่ชั้นวางหนังสือในบ้านของผมเอง แต่ผมไม่เคยเปิดอ่านอย่าจริงจังซักครั้ง แต่ผมกลับได้จากที่ต่างๆ เว็บ บล็อก หรือแม้กระทั้งบางส่วนที่ผู้เขียนยกมาบางประโยค ซึ่งก็เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน
.......ขอบคุณมากนะครับที่แวะไปเยี่ยม.....

yawaiam กล่าวว่า...

ขอบคุณ yai ที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน

blueswing กล่าวว่า...

ใช่ค่ะ พุทธศาสนาของเราช่างแยบยล
มาเริ่มจากการถือศีล 5 ให้บริสุทธิกันดีกว่าค่ะ
ศีลเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข ศีลนำมาซึ่งโภคทรัพย์ ศีลเป็นทางไปสู่พระนิพพาน เรามาถือศีลกันเถอะ (ท่านว่าอย่างนั้น) ^_^
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณ yawaiam ค่ะ

yawaiam กล่าวว่า...

ยินดีที่รู้จักคุณ blueswing ผู้มีมิตรไมตรีและเป็นBlogger ผู้มีความสามารถ