พรุ่งนี้เป็นวันพระ...เลยค้นคว้าเรื่องออกแนวธรรมะมาฝาก
..........ขงจื๊อ เป็นปราชญ์ของจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสดาเอกของโลก ชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าคำสอนของขงจื๊อทำให้คนจีนรู้จักการใช้ชีวิต รู้จักการปฏิบัติต่อครอบครัว และบรรพบุรุษ ตลอดจนการต่อสู้เพื่อการดำรงชีวิต ปฏิบัติตนอย่างไร จึงจะมีความสุขไม่เสื่อมคลาย และจิตใจสงบ
..........ในหลักคำสอนของขงจื๊อ ถือว่า ความมีเมตตาเป็นที่มาหรือเป็นพื้นฐานแห่งคุณธรรมทั้งปวง ขงจื๊อ เน้นให้มนุษย์รู้จักสร้างชีวิตที่ดีงามตั้งแต่แรกเกิด ให้ชาวจีนยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ให้ความเมตตากรุณาต่อทุกชีวิต และปลูกฝังให้เด็กหรือลูกหลานรักในความเป็นธรรม เห็นอกเห็นใจ พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อเด็กฝังใจในคุณธรรมแล้ว เขาเชื่อว่าผู้นั้นจะมีชีวิตที่ดีงามตลอดไป
..........ขงจื๊อมิได้สอนให้คนรู้จักเอาตัวรอดเพียงลำพัง แต่สอนให้ “เอาใจใส่และเป็นมิตรกับผู้อื่น เพราะมนุษย์จะบรรลุถึงความดีงาม โดยลำพังคนเดียวไม่ได้ เรายังต้องอาศัยสังคมจึงต้องช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น”
..........ขงจื๊อเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 72 ปี (พุทธศักราช 80) เขากล่าวในวาระสุดท้ายว่า “ขุนเขายังต้องพังทลาย ไม้ใหญ่ยังรู้จักหักโค่น คนก็ย่อมร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ”
..........แม้ขงจื๊อจะตายนานนับพัน ๆ ปีแล้ว แต่ “คัมภีร์ขงจื๊อ” ยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา หนังสือ คัมภีร์ขงจื๊อ ล.เสถียรสุต แปล
..........ขงจื๊อ เป็นปราชญ์ของจีนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสดาเอกของโลก ชาวจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าคำสอนของขงจื๊อทำให้คนจีนรู้จักการใช้ชีวิต รู้จักการปฏิบัติต่อครอบครัว และบรรพบุรุษ ตลอดจนการต่อสู้เพื่อการดำรงชีวิต ปฏิบัติตนอย่างไร จึงจะมีความสุขไม่เสื่อมคลาย และจิตใจสงบ
..........ในหลักคำสอนของขงจื๊อ ถือว่า ความมีเมตตาเป็นที่มาหรือเป็นพื้นฐานแห่งคุณธรรมทั้งปวง ขงจื๊อ เน้นให้มนุษย์รู้จักสร้างชีวิตที่ดีงามตั้งแต่แรกเกิด ให้ชาวจีนยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ให้ความเมตตากรุณาต่อทุกชีวิต และปลูกฝังให้เด็กหรือลูกหลานรักในความเป็นธรรม เห็นอกเห็นใจ พร้อมทั้งเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อเด็กฝังใจในคุณธรรมแล้ว เขาเชื่อว่าผู้นั้นจะมีชีวิตที่ดีงามตลอดไป
..........ขงจื๊อมิได้สอนให้คนรู้จักเอาตัวรอดเพียงลำพัง แต่สอนให้ “เอาใจใส่และเป็นมิตรกับผู้อื่น เพราะมนุษย์จะบรรลุถึงความดีงาม โดยลำพังคนเดียวไม่ได้ เรายังต้องอาศัยสังคมจึงต้องช่วยกันสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น”
..........ขงจื๊อเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 72 ปี (พุทธศักราช 80) เขากล่าวในวาระสุดท้ายว่า “ขุนเขายังต้องพังทลาย ไม้ใหญ่ยังรู้จักหักโค่น คนก็ย่อมร่วงหล่นไปตามธรรมชาติ”
..........แม้ขงจื๊อจะตายนานนับพัน ๆ ปีแล้ว แต่ “คัมภีร์ขงจื๊อ” ยังคงเป็นที่ยอมรับนับถือสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา หนังสือ คัมภีร์ขงจื๊อ ล.เสถียรสุต แปล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น